ข้อดีของ Cloud Computing
ประโยชน์หลายอย่างในการใช้โครงสร้างพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์แบบ
Cloud Computing คือ การประหยัดต้นทุนเริ่มต้น
คือเมื่อบริษัทหรือบุคคลออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีลงทุนเริ่มต้นมากนักกับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์
Cloud Computing โดยแพลตฟอร์มนี้จัดหาฮาร์ดแวร์และทำให้แน่ใจแพลตฟอร์มและฮาร์ดแวร์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ตามที่คาดหวังไว้
ซึ่งประหยัดต้นทุนได้ทั้งสองด้าน 1.การลงทุนในฮาร์ดแวร์ 2.ค่าใช้จ่ายค่าใช้จ่ายประจำ พวก ค่า Maintenance และ
ค่าไฟฟ้าเป็นต้น ค่าใช้จ่ายทั้งสองแบบนี้จะไม่มีเมื่อหันมาใช้ Cloud
Computing เนื่องฮาร์ดแวร์ได้ใช้บริการเช่าจาก Cloud
Computing ที่ให้บริการและราคาจะขึ้นอยู่ในการใช้งาน
ความสามารถในเรื่อง scalability คือ แพลตฟอร์ม Cloud Computing มีความสามารถในการเพิ่มหรือลดความสามารถในการคำนวณอาจเช่น
จำนวน Instance ได้ตามการใช้งานโดยอัตโนมัติ
ซึ่งเดิมดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ทุ่มเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม
และแม้เราลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มนั้น
ก็ไม่รับประกันว่าเราจะได้ประโยชน์ตามที่เราคาดไว้ ซึ่งต่างจากการใช้บริการ Cloud
Computing เมื่อมีการใช้งานเพิ่มขึ้นแพลตฟอร์มที่สามารถเพิ่มความสามารถในการคำนวณได้ไม่มีขีดจำกัดเรื่อง
scaling แต่ในตัวผู้ให้บริการ Cloud มีรับหน้าที่เรื่องการติดตั้งและ
Scaling แทนเพื่อให้ Cloud ทั้ง Cloud
ทำงานได้และทำงานอย่างมีเสถียรภาพ
เนื่องจากเป็นบริการลักษณะดังกล่าวความรับผิดชอบจึงเปลี่ยนจากผู้ใช้ไปยังผู้ให้บริการซึ่งทำให้ผู้ใช้ชีวิตสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากการเพิ่มขนาด scaling แล้วแน่นนอนยังสามารถลดขนาดบริการ
Cloud ลงได้
เมื่อเราไม่จำเป็นที่ต้องใช้งานโครงสร้างพื้นฐานที่นั้นตลอดเวลา
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมเรื่อง scaling Cloud
Computing สามารถใช้ให้ฮาร์ดแวร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และเมื่อมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นบริการของเราก็จะไม่ Overload และเมื่อมีการเข้าใช้เพียงเล็กน้อยหรือไม่การใช้บริการก็สามารถ
Scaling ให้ลดลงทำให้ใช้งานของทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพซึ่งนำไปสู่
การใช้ฮาร์ดแวร์ได้อย่างคุ้มค่าตลอดเวลา
ซึ่งต่างจากเดิมโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณโหลด
แต่เมื่อความต้องการใช้บริการดังกล่าวลดลงหรือไม่มีการเข้าใช้ฮาร์ดแวร์ดังกล่าวก็จะไม่ได้ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
ข้อเสียของ Cloud Computing
แม้ว่า Cloud Computing มีประโยชน์อย่างมากในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน
หากเปรียบเทียบกับแบบเดิมแต่ยังมีข้อเสีย
เนื่องการกำหนดราคาที่แตกต่างกันในแต่ละผู้ให้บริการและมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างซับซ้อน
ตัวอย่างเช่นสำหรับ Amazon Web Services ที่ราคาที่ต้องจ่ายจริงนั้นประกอบด้วย
ค่าบริการรายชั่วโมง ค่าบริการสตอเรจ และ ค่าบริการตามปริมาณการรับส่งข้อมูล
ทั้งหมดอาจยากที่จะคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายได้อย่างชัดเจนและข้อเสียใหญ่ที่สำคัญอีกข้อคือ
การขาดมาตรฐานเปิด (open standard)ระหว่าง Cloud
Computing ผู้ให้บริการซึ่ง ต่างคนต่างมี application
programming interfaces (API) เป็นของตนเองซึ่งนำไปสู่การผูกขาด
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงก่อนจะหันมาใช้บริการ Cloud Computing แทนสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกคือเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัท
เช่นบริษัทผู้ให้บริการ Cloud จะอยู่ถึงห้าปีไหมราคาเท่าไหร่ที่จะต้องจ่ายในด้านเทคโนโลยีหากบริษัทไม่ต้องการใช้งานบริการต่อ
และจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีค่าบริการจากการใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
เหล่านี้คือคำถามทั้งหมดลูกค้าควรคิดก่อนที่จะเลือก Cloud Computing รวมถึงผู้ให้บริการ แม้ว่าจากตัวอย่างที่ผ่าน Cloud Computing จะมีข้อดีมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับแบบเดิม
แต่ผู้ให้บริการบางรายอาจหายและมีรายอื่นเข้ามาแทนที่ แต่เนื่องจากยังไม่มี Common
API ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการเลือกผู้ให้บริการ
ซึ่งหากเราเลือกผู้ให้บริการไม่ดีอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าในส่วนที่ประหยัดไว้ได้
อีกข้อเสียซึ่งส่งผลในด้านความปลอดภัยของข้อมูล
คือ เรื่องความเชื่อถือได้และความปลอดภัยของผู้ให้บริการ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องกฎหมายซึ่งรัฐบาลและบริษัทต้องทำตาม
โดยพวกเขาจำเป็นต้องรู้ชัดเจนว่าข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ที่ไหนและให้ใครเข้าถึงได้บ้าง
แต่ Cloud Computing ทั้งหมดเป็นลักษณะของโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ในฮาร์ดแวร์เดียวกันแต่ในสภาพแวดล้อมที่
virtualized ต่างกัน
ดังนั้นในทฤษฎีที่เป็นไปได้ที่อาจจะมีคนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าคนอื่นผ่านช่องโหว่
เนื่องจากแอปพลิเคชันที่ทำงานฮาร์ดแวร์จริงเครื่องเดียวกัน
ที่มา : ข้อดี ข้อเสีย ของCloud